ลิเกคณะสายัณห์ ยืนยง ที่เปิดการแสดง ณ ลานกลางตลาดได้สองสัปดาห์ บรรเลงความตามท้องเรื่องจักรๆ วงศ์ๆ พระเอก(เจ้าชาย) นางเอก(เจ้าหญิง) ผู้ร้าย(ราชาต่างเมือง) ต่างแสดงบทบาทของตน เมื่อจบการแสดงในแต่ละรอบ พวกเขาเข้าไปหลังเวที แล้วทยอยออกมาเก็บข้าวของ อุปกรณ์ประกอบฉาก เก้าอี้พลาสติกสีแดงระเกะระกะหน้าเวที ซึ่งแต่ละวันมีคนมานั่งดูไม่เกินสิบคน แต่ลิเกก็ยังแสดงด้วยสปิริต
คืนวันปฏิวัติ จากภาพข่าวในโทรทัศน์(ซึ่งไม่ค่อยมีภาพข่าว) เว้นแต่ช่องข่าวต่างประเทศอย่างซีเอ็นเอ็น หรือบีบีซี ที่เสนอภาพรถถังวิ่งกันครึ่กครั่กขวักไขว่ ในสายตาชาวต่างชาติ สิ่งนี้สร้างความตระหนกอกสั่นให้ไม่น้อย แต่กับคนกรุงเทพฯที่ใกล้ชิดเหตุการณ์ ถึงแม้หลายคนจะงุนงงสงสัย แต่คนส่วนใหญ่ต่างคาดคิดไว้แล้วว่าเหตุการณ์นี้คงเกิดขึ้นไม่วันใดก็วันหนึ่ง เราจึงเห็นคนยืนถ่ายรูปรถถัง ถ่ายรูปคู่กับทหาร บางคนยืนแนบใกล้ชิด หลายกลุ่มยืนดูอยู่ห่างๆ ราวกับดูมหรสพโรงใหญ่ที่มีท้องถนนเป็นเวทีแสดง
กระทั่งรุ่งเช้า หลังผ่านประกาศแถลงการณ์หลายฉบับ เหตุการณ์เคลื่อนคลาย ทุกสำนักข่าวเสนอข่าวไปในทิศทางเดียวกัน แม้สถานการณ์จะยังอึมครึมอยู่ ทว่าก็คลายความเคลือบแคลงไปได้บ้าง ผู้คนเริ่มทยอยออกมามุงดูเหตุการณ์ พระภิกษุเดินบิณฑบาตผ่านแนวรถถังอย่างเป็นปกติ มีคนมอบช่อดอกไม้ให้ทหาร รถถังหลายคันทัดดอกกุหลาบสีชมพูที่ปลายกระบอกปืน
คืนนั้น ลิเกคณะสายัณห์ ยืนยง ที่เปิดการแสดง ณ ลานกลางตลาดได้สองสัปดาห์ บรรเลงความตามท้องเรื่องจักรๆ วงศ์ๆ พระเอก(เจ้าชาย) นางเอก(เจ้าหญิง) ผู้ร้าย(ราชาต่างเมือง) ต่างแสดงบทบาทของตน ก่อนจบการแสดงในรอบนั้น พระเอกกล่าวออดอ้อนกับผู้ชม ว่าคณะของเขาจะเปิดการแสดงอีกสามวันก็จะย้ายไปที่อื่นแล้ว ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่จะได้กลับมาแสดงที่นี่อีก แล้วก็ทำท่าบีบน้ำตา เรียกเสียงเครือครวญจากบรรดาแม่ยกได้พอสมควร
สามวันถัดมา ลานกลางตลาดไม่มีเวทีลิเกตั้งอยู่ ส่วนบนถนนรถถังยังคงจอดตรึงกำลัง
ในขณะที่ลิเกลาโรง เรายังคงเฝ้าดูลิเกโรงใหญ่อยู่ต่อไป โดยที่ไม่รู้ว่าจะย้ายวิกเมื่อไร ลิเกโรงนี้บรรเลงความตามท้องเรื่องวิชาเลขคณิตคิดสนุก พระเอกเพิ่งเริ่มแสดงวิธีทำโจทย์เท่านั้น ส่วนคำตอบที่ได้ เรายังไม่รู้ว่าถูกหรือผิด คนตรวจคำตอบเท่านั้นที่รู้