นานมากแล้วที่กรุงเทพฯ ห่างเหินกับอากาศเย็นในหน้าหนาว ถึงแม้มีบ้างก็เพียงแตะผิว

แต่ปีนี้ จู่ๆ อากาศก็เย็นลงแทบตั้งตัวไม่ทัน หนำซ้ำยังเย็นยาวนานนับเนื่องเกือบเดือนแล้ว

บ้านผมอยู่แถบระเบียงเมืองกรุงเทพฯ จึงรับรู้สภาวะเย็นได้อย่างเต็มอณู ตอนกลางวันแทบไม่ต้องเปิดแอร์ (เพราะไม่มีแอร์ให้เปิด) ยิ่งกลางคืนจรดเช้ามืดต้องห่มผ้าหนาๆ จึงจะนอนสบาย แต่ครั้นตื่นเช้า ผมก็ต้องออกไปเดินเล่นที่สนามหน้าบ้านด้วยชุดกางเกงนอนเสื้อกล้ามที่สวมใส่เมื่อคืน ขณะที่นักเรียนสวมเสื้อกันหนาวไปโรงเรียน คนทำงานสวมเสื้อแขนยาวทับอีกชั้น ผมกระทำดังว่า อากาศแค่นี้ไม่ครณาหรอกน่า (ก็ผมเกิดข้างตู้เย็นนี่นา)

หมาที่บ้านสองตัว ได้เสื้อคนไปใส่ตัวละตัว ตัวผู้ได้เสื้อยืดลายเสือไปสวมใส่วิ่งอวดทั่วซอย มันคงไม่รู้หรอกว่ามันดูเหมือนเสือ แต่มันก็วิ่งทั่วซอยเป็นปกติ เป็นการออกกำลังกาย ลับเล็บกับพื้นถนน ยั่วแหย่หมาอริที่ถูกกักอยู่บ้านอื่น ผมก็ไม่เห็นว่ามันลำพองเกินกว่าปกติเช่นกัน ส่วนหมาตัวเมียได้เสื้อสีเหลืองไปสวม แต่มันทนการห่อหุ้มอยู่ได้ไม่นานก็กัดเสื้อสีเหลืองจนขาดยุ่ย หลุดลุ่ยจากตัวมัน ท่าทางมันคงไม่ชอบสีเหลือง ผมคิด แต่มันคงไม่หนาวเท่าไรนักเพราะมันมีขนหนากว่าเจ้าตัวผู้

ถึงแม้ปีนี้ผมจะเห็นคนสวมใส่เสื้อกันหนาวหลากสีมากกว่าปีก่อนๆ แต่ที่ผมสังเกตและเห็นแปลกเปลี่ยนไปก็คงเป็นหมาที่สวมเสื้อกันหนาวนี่แหละ คุณลองสังเกตดูสิ แม้แต่หมาจรก็ยังมีเสื้อกันหนาวสวมใส่เลย เสื้อสีอะไร ผมคงไม่ต้องบอกกระมัง.