คำอธิบาย
ผลงานของชมัยภร แสงกระจ่าง เล่มนี้ชื่อฟังสนุกสนานว่า สุภาพบุรุษสุดลำบากส์ส์ส์ ใส่ ส์ ถึงสามตัวนัยว่าลำบากมากเหลือเกิน ตีพิมพ์เป็นตอนลงในนิตยสารสกุลไทย มีนักอ่านติดตามมากมายเพราะสงสาร แงซาย ตัวเอกของเรื่อง และด้วยชะตากรรมกลั่นแกล้งหรือฟ้าดินไม่เป็นใจ แงซายก็ต้องต่อสู้และเรียนรู้ชีวิตให้ผ่านจุดวิกฤติไปให้ได้ เดียวกับยุติ ตัวละครที่นักเขียนทำให้เราเกลียดเหลือเกินในความร้ายกาจ ทว่านักอ่านอาจะต้องเสียน้ำตาให้กับชะตาของเขาเช่นกัน
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
จากสำนักพิมพ์
ปี ๒๕๕๘ นี้ นับเป็นปีที่สำนักพิมพ์คมบางได้รับข่าวดีที่คาดไม่ถึง เมื่อในวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๘ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้แจ้งมติจากที่ประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ประกาศรายชื่อศิลปินแห่งชาติประจำปี ๒๕๕๗ และศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ได้แก่ ชมัยภร บางคมบาง (แสงกระจ่าง)
สำนักพิมพ์คมบาง ผู้จัดพิมพ์ผลงานของชมัยภร แสงกระจ่าง เกือบทุกเล่ม มีความยินดีไม่แพ้นักเขียน ในฐานะที่มีส่วนร่วมในการผลิตผลงานดีมีคุณภาพสู่สังคมการอ่านของประเทศไทย ผลงานหลายๆ เล่มของชมัยภร แสงกระจ่าง ได้รับรางวัลในระดับประเทศ เช่น รางวัลหนังสือดีเด่น (รางวัลงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ) รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด รางวัลผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น ผลงานได้รับคัดเลือกหนังสือนอกเวลาตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ผลงานได้รับคัดเลือกเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาของสถาบันการศึกษาหลายสถาบัน นับเป็นนักเขียนคุณภาพที่มีผลงานต่อเนื่องมาตลอด
ผลงานเล่มใหม่ของชมัยภร แสงกระจ่าง เล่มนี้ชื่อฟังสนุกสนานว่า สุภาพบุรุษสุดลำบากส์ส์ส์ ใส่ ส์ ถึงสามตัวนัยว่าลำบากมากเหลือเกิน ตีพิมพ์เป็นตอนลงในนิตยสารสกุลไทย มีนักอ่านติดตามมากมายเพราะสงสาร แงซาย ตัวเอกของเรื่อง และด้วยชะตากรรมกลั่นแกล้งหรือฟ้าดินไม่เป็นใจ แงซายก็ต้องต่อสู้และเรียนรู้ชีวิตให้ผ่านจุดวิกฤติไปให้ได้ เดียวกับยุติ ตัวละครที่นักเขียนทำให้เราเกลียดเหลือเกินในความร้ายกาจ ทว่านักอ่านอาจะต้องเสียน้ำตาให้กับชะตาของเขาเช่นกัน
นี่เป็นวรรณกรรมเยาวชนอีกเรื่องที่สำนักพิมพ์คมบางภูมิใจนำเสนอเป็นอย่างยิ่ง ทั้งอ่านสนุก และทั้งมีแง่มุมให้มองชีวิตได้หลากหลาย มีมิติของมนุษย์อย่างครบถ้วนจนเหมือนตัวละครมาหลั่งน้ำตาอยู่ตรงหน้า
ชีวิตที่ทุกข์เหลือเกิน หากไม่ยมแพ้ ยืนหยัด และเข้มแข็ง เราก็ฝ่าความทุกข์ไปได้ การอ่านก็เป็นทางลัดในการฝ่าความทุกข์เช่นกัน
อ่านเพื่อผ่านทุกข์ อ่านเพื่อเห็นความสุขในชีวิต เชื่อว่าเมื่อบรรทัดสุดท้าย คุณจะยิ้มออกมา…
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>.
จากชมัยภร แสงกระจ่าง
ฉันอยู่หมู่บ้านแฝด ด้านข้างและหลังใช้รั้วเดียวกัน บางทีความเคลื่อนไหวในชีวิตของเพื่อนบ้านเราก็พลอยรับได้ไปด้วย เมื่อสี่ห้าปีที่ผ่านมา มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในบ้านด้านหลัง มีเสียงของเด็กชายเล็ก ๆคนหนึ่งถูกตีเป็นประจำดังขึ้นเป็นระยะ ๆ ตามด้วยเสียงด่าทอ และเสียงกรีดร้อง ฉันฟังความเคลื่อนไหวของชีวิตชุดใหม่นี้ด้วยความไม่สบายใจ ต่อมาก็มีเสียงซุบซิบนินทาจากเพื่อนบ้านว่า เด็กชายคนนี้น่าจะไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของผู้ตี ฉันยิ่งฟังก็ยิ่งโศกเศร้า จนกระทั่งวันหนึ่ง เกิดการตีกันขนานใหญ่ขึ้นในบ้านหลังนี้ เด็กชายถูกตีนานหลายชั่วโมง พร้อมคำผรุสวาทว่า มึงน่ะมันหมาหัวเน่า ไม่มีกูซักคน ก็อยากรู้นักว่าใครเขาจะเอามึง วันนั้น ฉันอยู่บ้านแต่เช้ายันค่ำ จึงฟังไปก็น้ำตาไหลไปด้วยความสงสารเด็กชาย พอลูกชาย(ของฉัน)กลับมาถึงบ้าน ฉันก็รีบฟ้อง ดูสิ บ้านนี้ตีลูกอีกแล้ว เขาพูดแบบนี้ด้วยนะ…แล้วฉันก็เล่าประโยคที่ได้ยินได้ฟัง ลูกชายฟังเงียบ ๆ เปิดตู้เย็นเอาน้ำออกมาดื่ม พอน้ำหมดแล้วเขาก็สรุปเสียงดังว่า
แม่รู้ไหม ประโยคนั้นมันแปลว่าอะไร
ประโยคไหน ตอนนี้ ฉันงง
ก็ประโยคว่า ไม่มีกูซักคน ก็อยากรู้นักว่าใครเขาจะเอามึงน่ะ
อ๋อ…แปลว่าอะไรล่ะ ฉันยังงงอยู่
มันแปลว่า กูคนเดียวเท่านั้นที่รักมึงไงล่ะแม่
ฉันยืนนิ่ง ลูกชายเดินไปแล้วแต่ก็ยังคิดถึงประโยคแปลความของลูกชายอยู่ จริงสินะ บางทีมันอาจจะแปลว่าอย่างนั้นก็ได้
หลังจากนั้นมา ฉันก็เขียน สุภาพบุรุษสุดลำบากส์ส์ส์ โดยไปยืมเอาชื่อ แงซาย มาเป็นชื่อตัวละครเอกเด็กชายตัวน้อยคนนั้น พร้อมขออนุญาตพี่ พนมเทียนผ่านพี่เพ้กกี้ ส่วนกระบวนการการจินตนาการเรื่องทั้งหมด ฉันคิดขึ้นมาเองรวมทั้งเรื่องกาลเวลาด้วย ระหว่างตีพิมพ์ในสกุลไทย ฉันก็ถูกบรรดาแฟน ๆกล่าวหาว่า ซาดิสต์ และหลายคนก็คร่ำครวญฝากฝังว่า ฝากดูแลแงซายด้วยนะ ฝากดูแลแงซายด้วย นับเป็นความกรุณาต่อฉันและแงซายน้อยเป็นอย่างยิ่ง
ขอให้แงซายน้อยทุกคนจงอยู่ดี และมีจิตใจเข้มแข็ง ตระหนักและเข้าใจถึงความเป็นไปและความเป็นจริงได้เป็นอย่างดี และฉันขอยืนยันด้วยเกียรติของนักเขียนว่า ฉันเองก็รักและสงสารแงซายไม่น้อยไปกว่านักอ่านท่านใด
ชมัยภร แสงกระจ่าง
๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘