เมื่อปี 2550 ในช่วงที่วงการวรรณกรรมแปลค่อนข้างเงียบเหงา สำนักพิมพ์คมบาง ใช้ชื่อ สำนักพิมพ์ชมนาด พิมพ์งานแปลวรรณกรรมระดับโลกเล่มหนึ่งขึ้น เป็นวรรณกรรมแนวกระแสสำนึก ของนักเขียนหญิงชาวอังกฤษที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก ทั้งเทคนิคการเขียน, แนวคิดเชิงสตรีนิยม และในเรื่องการทำอัตวินิบาตกรรม นักเขียนหญิงคนนั้นคือ เวอร์จิเนีย วูล์ฟ ด้วยการแปลของ ดลสิทธิ์ บางคมบาง ซึ่งก็คือนามใหม่ของนักแปลคนเก่า ที่ชื่อ สิทธิชัย แสงกระจ่าง ผลงานเรื่องนั้นคือ Mrs Dalloway ในชื่อไทยคือ คุณนายดัลโลเวย์
ผ่านไปจนถึงปีที่ 13 ในปี 2563 นี้สำนักพิมพ์คมบางได้พิมพ์ คุณนายดัลโลเวย์ เป็นครั้งที่ 2
ในบทความนี้จึงขอย้อนไปถึงความคิดของนักแปล ดลสิทธิ์ บางคมบาง ในการแปลคุณนายดัลโลเวย์ออกมาสู่วงการการอ่านในประเทศไทย
จากอดีตมาสู่ปัจจุบัน จากดลสิทธิ์ บางคมบาง ในการแปล คุณนายดัลโลเวย์
Mrs Dalloway เคยเป็นภาพยนตร์มาเมื่อหลายปีก่อน นำแสดงเป็น Mrs Dalloway โดยดารารุ่นใหญ่ Vanessa Redgrave และเมื่อไม่นานมานี้ก็มีภาพยนตร์ดัดแปลงและเสริมต่อเรื่องราวจากวรรณกรรมเรื่องเดียวกันนี้ ในชื่อ The Hours นำแสดงเป็น Virginia Woolf ผู้เขียน โดยดาราดัง Nicole Kidman ซึ่งเป็นที่ต้อนรับไม่น้อย และนักอ่านคอวรรณกรรมคงได้ผ่านตากันมาแล้ว
ว่าไปแล้วชื่อของ Virginia Woolf เป็นที่กล่าวขวัญและรู้จักกันดีในแวดวงวรรณกรรมไทยมาเนิ่นนาน ในฐานะนักเขียนแนวกระแสสำนึก (Stream of Consciousness) ผู้มีผลงานอันน่าทึ่ง เป็นที่กล่าวขวัญและอยู่ในความนิยมของนักอ่านทั่วโลกมานานยาว เพียงแต่ผลงานของเธอไม่มีผู้ใดแปลออกมาเป็นภาษาไทยเท่านั้น
ในการแปลครั้งนี้จึงเป็นความพยายามของผู้แปลในอันจะให้นักอ่านชาวไทยได้รู้จักตัวเนื้องานของนักเขียนคนสำคัญคนหนึ่งของศตวรรษที่ยี่สิบผู้นี้ และ คุณนายดัลโลเวย์ เล่มที่ท่านถืออยู่นี้จึงเป็นผลงานเล่มแรกของเธอที่ได้รับการแปลเป็นภาษาไทย
เวอร์จิเนีย วูล์ฟ กับนักเขียนร่วมสมัย
Virginia Woolf เป็นนักเขียนชาวอังกฤษ ร่วมสมัยเดียวกันพอดีกับ James Joyce นักเขียนชาวไอริช ซึ่งมีผลงาน A portrait of an Artist as a Young Man และ The Dubliners แปลเป็นภาษาไทยมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยทั้งคู่นี้ต่างเกิดในปี 1882 และเสียชีวิตในปี 1941 ด้วยกัน
นักเขียนแนวกระแสสำนึกอีกคนในฟากยุโรปตะวันออก ที่ร่วมสมัยเดียวกันกับ Virginia Woolf และมีผลงานแปลเป็นภาษาไทยหลายเล่มหลายสำนวนด้วยกัน เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักอ่านคอวรรณกรรม ได้แก่ Franz Kafka (1883 – 1924)
นักอ่านที่ผ่านการอ่านงานเขียนของ Kafka มาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะในสำนวนแปลของผู้แปลในชื่อเล่ม ในความนิ่งนึก คงจะพอคุ้นเคยกับการอ่านงานเขียนในแนวกระแสสำนึก (Stream of Consciousness) มาบ้าง และคงพบมาแล้วถึงความแตกต่างจากงานเขียนของนักเขียนอื่นโดยทั่วไป
คุณนายดัลโลเวย์ เล่มนี้ก็เช่นนั้น และอาจเป็นปัญหาอยู่บ้างสำหรับนักอ่านที่ยังไม่คุ้น แต่ผู้แปลเชื่อว่า เมื่อได้อ่านลึกเข้าไปในตัวเรื่องแล้ว เขาจะพบว่านี่เป็นประสบการณ์ในการอ่านที่แตกต่างอย่างยิ่ง โดยผู้อ่านจะสัมผัสได้ถึงชีวิตภายในของตัวละคอนได้ลึกกว่างานประเภทอื่นๆที่เขาได้เคยอ่านมา ทั้งเหมือนจะเสริมให้เขาต้องใช้จิตนาการที่ลึกมากขึ้นในการจะรับรสวรรณกรรมให้เป็นไปโดยเต็ม
เกี่ยวกับการแปลของดลสิทธิ์ บางคมบาง
และก่อนเข้าสู่การอ่าน ผู้แปลขอชี้แจงเกี่ยวกับการใช้วรรค -ซึ่งนักอ่านบางคนอาจเห็นว่ามีมากเกินไป น่าจะรวบเข้าด้วยกันได้โดยไม่เสียความ- ว่า ผู้แปลใช้วรรคด้วยความมุ่งหมาย 1) แยกคำไม่ให้สับสน 2) คั่นความที่แทรกเข้ามา 3) ทอดเสียงท้ายคำที่ทิ้งวรรคให้ไปรับกับคำที่ตามมา 4) เป็นจังหวะให้กับเสียงของความคิด เช่นจังหวะของคลื่นทะเล ตามจังหวะของกระแสสำนึก ดังนั้นในการอ่านจึงอาจต้องทอดสายตาไปหาคำที่รับความกันกับคำในท้ายวรรคอยู่บ้าง ซึ่งจากการอ่านไปได้สักระยะก็จะจับกฎเกณฑ์ได้โดยง่าย
ผู้แปลหวังไว้กับตัวเองว่าจะมีโอกาสนำผลงานของ Virginia Woolf เรื่องอื่นๆ มาเสนออีกได้ในโอกาสข้างหน้า
ผู้แปลได้กล่าวถึงที่มาที่ไปไว้เมื่อ สิงหาคม 2550 จากซับตาเมา โป่งน้ำร้อน จันทบุรี อันเป็นบ้านที่ใช้ทำงานแปลในระยะหลัง ซึ่งได้ปลูกต้นไม้ป่าไว้มากมาย และต่อมาได้ใช้ชื่อว่า เมืองต้นไม้ โดยมีเพจที่ลงเรื่องราวและรายละเอียดเกี่ยวกับบรรยากาศต่างๆ ในชื่อเฟซบุ๊กเพจ เมืองต้นไม้
ปัจจุบันดลสิทธิ์ บางคมบาง ยังคงทำงานแปลอย่างต่อเนื่อง หลังจากแปลคุณนายดัลโลเวย์ ออกมา ก็มีงานแปลที่ตามมาเช่น เมื่อฉันนอนกำลังตาย ของวิลเลียม โฟล์คเนอร์ / การสอบความของสุนัขตนหนึ่ง ของ ฟรันซ์ คาฟคา และกำลังมีเรื่องสั้นที่จะออกใหม่คือ ถนนจระเข้ ของ บรูโน ชูลซ์ นักเขียนโปแลนด์ ที่แม้ว่าจะเคยแปลมาแล้ว แต่ครั้งนี้มีเรื่องสั้นใหม่เพิ่มเติมอีก 3 เรื่อง ทั้งยังแปลใหม่ทั้งเล่มดัวย