คำอธิบาย
ได้รับรางวัลนวนิยายชมเชย การประกวดหนังสือดีเด่น งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ปี 2554
จากชมัยภร แสงกระจ่าง
กว่าดาวจะระยิบฟ้า
ฉันเคยไปสอนวิชาวรรณกรรมวิจารณ์ให้นิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอยู่หลายปี นิสิตรุ่นแรกที่ไปสอน จะสนิทกันมากจนถึงขนาดเลยไปสนิทกับเพื่อน ๆของลูกศิษย์อีกด้วย ในจำนวนนี้มีอยู่คนหนึ่งเป็นครูสอนอยู่ที่ต่างจังหวัด ติดสอยห้อยตามเพื่อนนิเทศฯมาหาฉันถึงบ้าน เพื่อนของลูกศิษย์เป็นคนน่ารัก เธอคุยสนุก และเป็นคนมีอารมณ์อ่อนไหว แต่เวลาทำงานเป็นประเภท ลุย ตามด้วยรักอุดมการณ์ยิ่งชีวิต เธอออกหัวเอียงซ้าย ช่างซัก ช่างถาม และช่างเล่า เล่าเสียจนกระทั่งลูกสาวของฉันเกิดแรงบันดาลใจในการอ่าน โต๊ะ โตะ จัง ทั้งที่ฉันเพียรบอกมาไม่รู้กี่ครั้งกี่หนว่า หนังสือดี
เธอชื่อ มีนา ศรีสมบูรณ์
นอกจากช่างเล่าแล้วเธอยังช่างบันทึก ฉันเห็นคุณสมบัติข้อดีในตัวเธอ จึงยุให้เขียนหนังสือ แต่จนแล้วจนรอด เธอก็ไม่ยอมเขียนออกนอกสมุดบันทึก เธอย้ายโรงเรียนหลายครั้งหลายหน ด้วยเหตุผลต่าง ๆกัน ท้ายสุดเธอลาออกก่อนเกษียณ และยกสมุดบันทึกทั้งหมดมาให้ฉัน และว่า พี่เอาไปเขียนเถอะ
ฉันกองสมุดบันทึกเธอไว้หลายเดือน ไม่รู้จะตั้งต้นอ่านตรงไหน จนวันหนึ่งเผลอหยิบมาอ่าน ก็ค้นพบว่า ฉันร้องไห้น้ำตานองเพราะสะเทือนใจในเรื่องราวที่เธอบันทึก ตรงโน้น ตรงนี้ ทั่วไปหมด ในที่สุด ฉันจึงคิดจะเขียนเรื่องของเธอ แต่ต้องเป็นเธอที่ ปรุงใหม่ กลายเป็น ครูเมษา ที่ร้อนราวกับดวงตะวัน คอยแต่จะส่องแสงให้ดวงดาวทั้งหลายที่นั่งคอยทำตากะพริบระยิบระยับอยู่ในห้องเรียน ครูเมษาในชีวิตจริงจะมี วลาหก หรือไม่ ไม่รู้ รู้แต่ว่า เงาของวลาหกนั้น ฉันเอามาจากศิลปินวาดรูปคนหนึ่งที่ไปประชุมด้วยกันเป็นครั้งคราว ไม่ขออนุญาตใด ๆทั้งสิ้น เพราะไม่มีเค้าลาง เป็นตัวที่ฉันสร้างขึ้นทั้งสิ้น ได้มาเพียงเงา
ข้อใดเป็นข้อดีของหนังสือเล่มนี้ ขอยกให้ครูเมษาตัวจริงผู้เป็นแรงดาลใจในการเขียนเรื่องนี้
ความสุขใน ดั่งดาวระยิบฟ้า ปรุง ขึ้นเพื่อให้กำลังใจคนมีอุดมการณ์ หวังว่า ดาวของครูเมษาคงจะส่องไปจนถึงดวงดาวทุกดวงที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้
ชมัยภร แสงกระจ่าง