แม่ทั้งโลกเป็นเช่นนี้
ชมัยภร แสงกระจ่าง
ราคาปก 135 บาท
จำนวน 160 หน้า
วางจำหน่ายแน่นอนที่ร้านหนังสือบู๊ธคมบาง
N 44 โซนซี ชั้นล่าง
สำนักพิมพ์แนะนำ
เรื่องสั้นชุด แม่ทั้งโลกเป็นเช่นนี้ เป็นเรื่องสั้นที่คัดสรรจากเรื่องสั้นทั้งหมด เฉพาะเรื่องที่มี แม่ เด่นชัด เป็นตั้งใจยิ่งของนักเขียน ดังที่กล่าวไว้ในคำนำจากนักเขียน สำนักพิมพ์เป็นผู้จัดเรียงภาพรวมของเล่มให้อ่านสบายๆ และได้ภาพ แม่ ของทั้งโลก อย่างที่ผู้เขียนต้องการ
เรื่องสั้นทั้ง 19 เรื่อง เขียนขึ้นต่างวาระ และลงในนิตยสารต่างกัน บางเรื่องผ่านการรวมเล่มมาแล้ว ทุกเรื่องล้วนมีไออุ่นของความเป็นแม่ ครอบครัว ลูก ให้ผู้อ่านได้ประทับใจ และเชื่อว่าผู้อ่านหลายๆ คน เมื่ออ่านแล้วอาจจะอมยิ้มบ้าง น้ำตาคลอบ้าง หัวเราะบ้าง เชื่อว่าเมื่ออ่านแล้วคิดถึง แม่ ของตัวเองขึ้นมาจริงๆ (ถ้าคิดถึงแต่อยู่ไกลก็อย่าลืมโทร.หานะคะ)
แม่ทั้งโลกเป็นเช่นนี้ เป็นรวมเรื่องสั้นคัดสรร ที่ คนมีลูก ต้องอ่าน และ คนเป็นลูก ยิ่งต้องอ่าน
สำนักพิมพ์คมบาง มีความยินดีที่ได้นำเสนอเรื่องราวดีๆ เช่นนี้ แก่โลกการอ่าน
จากนักเขียน
ฉันเติบโตขึ้นในบ้านชนชั้นกลาง แต่เป็นชนชั้นกลางบ้านนอก แม่มีสถานะทางสังคม เป็นครูประชาบาล และเป็นครูน้อย ชีวิตของแม่มีปัญหาซับซ้อน ต้องต่อสู้ดิ้นรนมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันเห็นว่า แม่มีอยู่อย่างสม่ำเสมอคือความรักลูก แม่เป็นคนประนีประนอม ขี้เกรงใจคน ไม่ชอบความขัดแย้ง แต่ก็ไม่ยอมตามใครง่าย ๆ เวลาจะแข็งขึ้นมา แม่ก็ทำได้อย่างไม่น่าเชื่อ พวกเราสามคนเห็นแม่ทำทุกอย่างในบ้านมาตั้งแต่เล็ก แม่ทำกับข้าว แม่ทำขนม แม่เย็บผ้า แม่ทำสวน แม่เลี้ยงไก่ แม่เลี้ยงหมา แม่เลี้ยงแมว และแม่ยังสอนให้ลูกทุกคนเป็นเช่นเดียวกับแม่
แม่เป็นผู้นำครอบครัวของเรา เพราะพ่อมีปัญหาชีวิตอยู่ช่วงหนึ่ง และยังจากไปเร็ว(อายุ ๔๙) ทำให้แม่ต้องแบกรับภาระในการเลี้ยงดูลูกสามคนตลอดมา แต่แม่ก็ไม่เคยบ่นว่าพ่อ หากยังยึดพ่อเป็นสรณะแม้ในความฝัน ทุกครั้งที่ลูกมีปัญหาชีวิต ซึ่งจิตสำนึกแม่คาดเดาได้ แม่ก็จะฝันว่าพ่อมาหาในฝันและชี้ทางให้แม่ไปหาลูก และเป็นเช่นนี้จนกระทั่งลูกแต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราทั้งสามคนพบเห็นได้เสมอตลอดชีวิตก็คือ แม่เป็นคนขี้กังวลและปริวิตกล่วงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เกี่ยวกับลูก ชีวิตแม่มีเรื่องร้าย ๆเกิดขึ้นมาก ดังนั้น แม่จึงมักคาดเดาไปในทางร้ายเสมอ เมื่อแม่มาเลี้ยงลูกคนเล็กให้ฉันที่กรุงเทพฯ แม่สามารถนั่งคอยฉันกลับบ้านได้ทุกวันทุกคืน ยิ่งกลับดึกยิ่งปริวิตก และคาดเดาล่วงหน้า สมัยนั้นไม่มีมือถือ ทุกอย่างจึงดูน่าวิตกกังวล แม่เป็นเช่นนี้ตลอด จนแม้เมื่อแม่อายุแปดสิบและลูกจวนหกสิบ แม่ก็ยังเป็นเช่นนี้ สามารถนั่งปริวิตกคอยพี่สาวซึ่งไปเที่ยวกับครอบครัวได้จนสามทุ่มสี่ทุ่ม เมื่อฉันบอก(ทางโทรศัพท์)ว่า
แม่จะไปคอยทำไม พี่เขาแก่แล้วนะ แล้วเขาก็ไปกับครอบครัวเขาด้วย
แม่นิ่งไปพักหนึ่ง แล้วถามกลับฉันว่า
ถ้าเป็นแก แกทำได้หรือเปล่า คนเป็นแม่น่ะ ห่วงลูกตลอดชีวิตนะ
ฉันวางโทรศัพท์แล้วน้ำตาไหลด้วยความตื้นตัน
เราเห็นแม่เป็นแม่แบบแม่มาตลอด เมื่อแม่มีอายุมากขึ้น เราจะไม่ค่อยรู้สึกว่าแม่เปลี่ยนไป เพราะแม่มักเดินเร็ว พูดด้วยเสียงใส จนคนที่ได้พูดกับแม่ทางโทรศัพท์มักเข้าใจว่าแม่อายุไม่มากนัก แต่แม่มักบอกเสมอว่า ร่างกายแม่ทรุดโทรมแล้ว แก่แล้วไม่มีอะไรดี นี่เป็นประโยคสำคัญที่แม่พูดกับฉันเสมอ
ฉันเป็นคนที่เสียเปรียบหรือเอาเปรียบพี่น้องสองคน เพราะอยู่ไกลแม่ ไม่มีโอกาสได้ดูแลแม่เท่าพี่น้องสองคน ได้แต่ดูแลทางโทรศัพท์ แถมยังเอาแม่ไปเขียนหนังสืออยู่บ่อย ๆ แม่อ่านบ้าง ไม่อ่านบ้าง แล้วแต่เรื่อง ระยะหลังแม่อ่านหนังสือได้ยากลำบากขึ้น แม่ก็เลยห่าง ๆไป ตรงกันข้ามกับฉันที่กลับเขียนเรื่องแม่หนักขึ้น จนกลายเป็นนวนิยายเยาวชนเรื่องคุณยายหวานซ่าส์ส์ส์ ซึ่งตีพิมพ์ในนิตยสารสกุลไทย และได้รับรางวัลชมเชย จากการประกวดหนังสือดีเด่นของกระทรวงศึกษาธิการ
ปีนี้แม่อายุครบ ๗ รอบ (๘๔ ปี) ฉันอยากขอบคุณแม่ที่ให้ชีวิตแบบฉัน อย่างที่ฉันเป็น จนฉันได้เป็นนักเขียน(ตามที่พ่อใฝ่ฝัน) และให้ตัวอย่างชีวิตของแม่ที่ทำให้โลกตัวหนังสือเบิกบาน การขอบคุณที่ฉันทำได้ก็คือ ประมวลดูว่า ฉันได้เอาความเป็นแม่ไปจารึกไว้ตรงไหนบ้างบนเส้นทางตัวหนังสือของฉัน โดยมองผ่านเรื่องสั้นซึ่งเป็นเส้นทางทั้งชีวิต ทำให้ได้พบว่า แม่ไปอยู่ในทุกที่ (หากนับในนวนิยายและงานประเภทอื่น ๆด้วย ฉันก็คงต้องพิมพ์หนังสือขนาดมหึมาที่คนอ่านไม่มีเงินซื้อ)
ขอขอบคุณแม่บัวขาว วิทูธีรศานต์ ผู้เป็นดั่งดอกบัวสีขาว(บุณฑริกา)บานบริสุทธิ์ในหัวใจของลูก และเป็นเช่นเดียวกับแม่ทั้งโลก คือเป็นผู้ให้ความรักแก่ลูกอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีที่สิ้นสุด
ชมัยภร แสงกระจ่าง
๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑