องุ่น มาลิก หรือ “ครูองุ่น” เป็นชื่อที่แทบไม่ปรากฏในหน้าประวัติศาสตร์ไทย และอันที่จริงคนทั่วไปได้ยินชื่อของครูองุ่นจากกิจกรรมที่มูลนิธิไชยวนาจัดขึ้น โดยเฉพาะกิจกรรมการแสดงหุ่นมือ “มหกรรมการแสดงหรรษา” ที่จัดขึ้นในช่วงปี ๒๕๔๒-๒๕๕๙ ซึ่งจัดขึ้นหลังจากครูองุ่นเสียชีวิตไปแล้วหลายปี (เสียชีวิตเมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๓๓) ครูองุ่นกลายเป็นชื่อที่คนทั่วไปจะนึกถึงหุ่นเชิดมือและความสนุกสนานของเด็กๆ รวมทั้งสวนครูองุ่น ซึ่งเป็นสวนเล็กๆ ในซอยทองหล่อที่มักมีกิจกรรมหลากหลายอยู่เป็นประจำ
แล้วที่จริง องุ่น มาลิก เป็นใคร หลายคนคงมีคำถาม
ชมัยภร แสงกระจ่าง นักเขียน ได้พาผู้อ่านย้อนกลับไปยังประวัติศาสตร์ของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ผ่านกาลเวลาและการเปลี่ยนผ่านทางประวัติศาสตร์การเมือง สังคม และประวัติศาสตร์ของความเป็นหญิง เท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะได้พบพานในชีวิต
องุ่น สุวรรณมาลิก ลูกสาวของขุนนางแห่งรัชกาลที่ ๖ เกิดในยุคสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ขณะที่พ่อเป็นข้ารับใช้ที่สัตย์ซื่อ ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปเมื่อสิ้นรัชกาล เปลี่ยนผ่านสู่รัชกาลที่ ๗ พร้อมกับกระแสลมของความเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์การเมือง เข้าสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง ๒๔๗๕ องุ่นเป็นผู้หญิงก้าวหน้าคนหนึ่ง ที่เห็นความสำคัญของการศึกษา คิด และวิเคราะห์ภาพความขัดแย้งและการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้น ได้เห็นความขัดแย้งและการแย่งชิงอำนาจที่เข่นฆ่าทำลายชีวิตของผู้เห็นต่างไปมากมาย ไล่เรียงมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ ๒ การรัฐประหารหลายครั้ง กบฏ ๑๘ ศพ การสวรรคตของรัชกาลที่ ๘ กบฏสันติภาพ เหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ เหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ ล้วนมีผลต่อความเป็นตัวตนของมนุษย์คนหนึ่งให้กลายเป็นคนที่มีใจมุ่งมั่นในการอุทิศตนเพื่อส่วนร่วม
แต่ในฐานะลูกผู้หญิง องุ่น สุวรรณมาลิก เป็นผู้หญิง “ก้าวหน้า” ที่ติดค้างอยู่ตรงรอยแยกของการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม ในช่วงชีวิตที่กำลังเปล่งประกาย หญิงสาวผู้มีคนรักอยู่แล้วกลับต้องแต่งงานกับชายสูงวัย “เพื่อนของพ่อ” เพื่อประคับประคองสถานะดั้งเดิมที่เคยมีอยู่ให้รอดต่อไปในการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย เมื่อสามีเสียชีวิต เธอก็มีโอกาสกลับไปแต่งงานกับคนรักเก่า เรื่องราวที่ฟังเหมือน “นิยาย” นี้ กลับจบลงที่การหย่าร้าง เป็นอีกมุมของชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องพบเจอ ชีวิตส่วนตัวอื่นๆ ที่ลึกไปกว่านั้นของเธอจึงแทบไม่ได้รับการเปิดเผยบอกเล่าอย่างชัดเจน แต่เชื่อว่าจากการประสบพบเจอปัญหาชีวิตที่หนักหน่วงสาหัสนี้เอง ที่ทำให้องุ่น มาลิก เป็นคนที่เห็นอกเห็นใจคนอื่น เข้าใจผู้คนไม่ว่าจะวัยเดียวกันหรือต่างวัย มีใจที่ทุ่มเทให้กับเด็กและคนเดือดร้อนยากไร้เสมอ
นอกจากนี้การรักในการศึกษาหาความรู้ตลอดชีวิต หน้าที่และอาชีพต่างๆ ที่เคยทำทั้งนักข่าว รองบรรณาธิการนิตยสาร และครูที่สอนตั้งแต่เด็กเล็กจนกระทั่งมหาวิทยาลัย ล้วนเป็นอีกส่วนสำคัญของชีวิตที่ทำให้หัวใจของครูองุ่นตั้งมั่นอยู่ในการพยายามจะให้ความรู้และผลักดันให้เด็กๆ ได้เติบโตไปเพื่อสร้างสรรค์สังคมที่ดี
เป็นการประกอบสร้างของชีวิตมาสู่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้มแข็งเหลือจะกล่าว ทว่ากลับแสดงตัวอย่างคนตัวเล็กอยู่เบื้องหลัง ประมาณตน ใฝ่ในธรรม และยังคงมุ่งมั่นทำประโยชน์ให้ส่วนรวมจนวันสุดท้าย
เหมือนดาวส่องแสงอยู่ทั่วฟากฟ้า นั้นคือฝันและหวังของผู้หญิงคนหนึ่ง และคือแรงใจให้คนรุ่นต่อไป
สำนักพิมพ์คมบางหวังว่า เหมือนดาวส่องแสงอยู่ทั่วฟากฟ้า จะเป็นเล่มที่ทำให้ผู้อ่านได้เรียนรู้ชีวิตจากผู้หญิงคนหนึ่ง และนำมาเป็นแรงพลังให้การทำสิ่งดีให้กับส่วนรวม